ปัญหาการเมืองในระดับประชาชน ที่ผมมองเห็น ในตอนนี้คือ “คนไม่รู้จักตัวเอง”
ไม่รู้ว่า ตัวเองขาดอะไร มีข้อบกพร่องอะไร
จึงไม่มีการปรับปรุงตัว และทำให้ปัญหายิ่งขยายไปเรื่อยๆ

ความคิดเห็นทางการเมืองของประชาชน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ นั้นคือ

1. กลุ่มปฏิวัติ: กลุ่มที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง, สนับสนุนม๊อบ (เลเวล มีตั้งแต่ ล้มระบอบประยุทธ จนถึง ล้มล้างสถาบัน)
2. Ignorance/Apathy: กลุ่มที่สนใจแต่เรื่องตัวเอง มีความฝันอยากมีบ้าน เลี้ยงลูก เลี้ยงหมา ปลูกผัก
3. กลุ่มสลิ่ม: กลุ่มที่ปกป้องขั้ว, สถานะทางการเมืองปัจจุบัน
   * ไม่อยากใช้คำว่าสลิ่ม แต่ยังหาคำสั้นๆ ไม่ได้ และต้องการ Educate ว่าสลิ่ม คืออะไร

ทั้งสามกลุ่มนี้ มีสิ่งที่ต้องรู้จักตัวเองมากขึ้น รับรู้ปัญหา และแก้ไข

1. กลุ่มปฏิวัติ

ไม่ว่าคุณจะรับรู้หรือไม่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า กลุ่มนี้ มีความรุนแรงซ่อนอยู่จริงๆ
อาจจะด้วยความหลากหลายของฝูงชน จนเกินความควบคุม
แต่ก็ไม่พ้น ที่จะหลุดไปเป็น Content ของฝั่งตรงข้าม นำมาใช้ขยี้หากินเรื่อยไป

แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่า และแก้ไขได้ คือ Hate Speech และการประชดประชัน
มันเป็นความรุนแรงปลาย Keyboard ที่ส่งผลไม่ต่างกับการ เอาไม้ไล่ตีฝั่งตรงข้าม
มันมีแต่สร้างความเกลียดชัง และทำให้ Message จริงๆ ที่ต้องการจะสื่อสารนั้น ไปไม่ถึงฝั่ง

Hate Speech เป็นความรุนแรงที่ผู้ใช้พิมพ์มันโดยไม่รู้ตัว
และเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากขึ้น
เป็น Blocker ปิดประตูการเรียนรู้ของอีกฝั่งอย่างมิดชิด

เป็นปัญหาที่กลุ่มปฏิวัติควรแก้ไขโดยด่วน
หยุดเอาไม้ไล่ตีคนอื่น แต่เน้น Educate
และส่ง Message ไป โดยปราศจาก Hate Speech

2. กลุ่ม Ignorance/Apathy

ลักษณะของคนกลุ่มนี้คือ สนใจแต่เรื่องตัวเอง (no offense)
อาจจะด้วยเวลาที่มีจำกัด จากภาระ หน้าที่ที่ต้องแบกรับ (จากชนชั้น หรือความทะเยอทะยาน)
ไม่มีเวลาอ่าน ติตตามข่าว ไม่ได้ใช้ทวิตเตอร์ เพราะต้องใช้เวลาทำงาน และอยู่กับครอบครัว

ความฝันของคนกลุ่มนี้คือ ได้ทำสิ่งที่ตนเองรัก หาความสุขให้ครอบครัว และคนทีรัก
คนกลุ่มนี้ ไม่อยากสนใจเรื่องการเมือง เพราะใช้เวลาสูง ซับซ้อน เสี่ยงแตกหัก และเปลืองตัว

แม้คนกลุ่มนี้จะไม่รู้ตัวว่า ความสุขเหล่านั้น มันฉาบฉวย ไม่ยั่งยืน
แต่คนกลุ่มนี้ ไม่ได้ทำอะไรผิด “ไม่สมควรโดนด่า” ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ พวกฉุดความเจริญ

เขาเป็นเพียงคนที่ยืนงง ว่า คนต่อยกันกลางถนนเรื่องอะไร และไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก

ที่แย่ก็คือ คนกลุ่มนี้ ได้รับ Hate Speech จากกลุ่มปฏิวัติหัวรุนแรง
ก็ยิ่งติดภาพลักษณ์ความรุนแรงนั้น
ส่งผลให้ เลิกสนใจ Message ที่ทางกลุ่มปฎิวัติต้องการสื่อออกมาจริงๆ

ปัญหาของคนกลุ่มนี้ ก็คือ

• ขาด Empathy (ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น): เขามองไม่เห็นว่า ประเทศเรามีปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และไม่รู้ว่าแก้ไขได้
• ไม่อ่าน ไม่ติดตามข่าว: เพราะหมดเวลาไปกับการทำงาน เลี้ยงลูก พอไม่อ่าน ก็ไม่เห็นปัญหา และ งงว่า กลุ่มม๊อบเดือดร้อนอะไรกัน

3. กลุ่มสลิ่ม

(ขอแบ่งออกเป้น 2 กลุ่มย่อย)

3.1 กลุ่มสลิ่มที่ได้ผลประโยชน์ทางการเมือง

กลุ่มนี้ รู้อยู่แก่ใจว่า ถ้าขั้วการเมืองเปลี่ยนแปลง จะทำให้ผลประโยชน์ของตนเอง ตกเป็นปัญหา
จึงต้องปกป้องสถานะนี้ไว้อย่างเต็มที่ จึงไม่ใช่กลุ่มที่เรา Educate แล้วจะช่วยอะไร

3.2. กลุ่มสลิ่ม ที่ยังไม่ Move on

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ควรได้รับการ Educate เพื่อทำความเข้าใจ ปัญหาของระบบ
และล้างภาพจำในหัวออกไป และมองปัญหาปัจจุบัน
คนกลุ่มนี้ ไม่สนใจจะรับข้อมูลชุดใหม่ ไม่ Update firmware
เพราะกลัวว่า สิ่งที่ตัวเองเคยเชื่อมาตลอด มันจะไม่ถูกต้องอีกต่อไป

แล้วพอคนกลุ่มนี้เจอ Hate Speech จากกลุ่มปฏิวัติ ก็ยิ่งสนับสนุนความเชื่อในหัวว่า
พื้นที่ของตัวเองนั้น สูงส่งกว่า ไอ้พวกม๊อบสามกีบชังชาติ ทรราช

ปัญหาของกลุ่มนี้ สิ่งที่เขาขาดคือ การเปิดใจศึกษาข้อมูลใหม่ และการยอมรับปัญหา

ทุกครั้งที่รัฐบาลทำอะไรเฮงซวย เขาก็ใช้วิธี…

• ปฏิเสธปัญหา: ทุกรัฐบาลแม่งก็โกงเหมือนกัน,
• ลด Standard: นี่เขาก็ทำดีที่สุดแล้ว ดูอย่างประเทศ X ซิ
• ไม่รู้ต้นตอของปัญหา: ทุกอย่างเริ่มที่ตนเอง, ขยันสิ จะได้รวย

ความรุนแรง (Hate Speech) ของกลุ่มปฏิวัติ กำลัง Block คนเหล่านี้
จาก Message จริงๆ ที่เขาต้องจะสื่อ

ส่งท้าย

สุดท้ายนี้ อยากย้ำจุดประสงค์ของบทความนี้อีกครั้งว่า
บทความนี้ ไม่ได้ช่วยหาทางออกประเทศชาติ ไม่ได้มีความรู้มากขนาดนั้น
บทความนี้เป็น ขั้นตอนก่อนหาทางออก คือการให้คน “รับรู้ปัญหา”

บทความนี้ต้องการเอานิ้วชี้ให้เห็นว่า มีอะไร Block การรับรู้ปัญหาของคนบางกลุ่มอยู่
และเสนอแนวทาง Unblock นั้นด้วยการ
ลด Hate Speech, ติดตามข่าว, เพิ่ม Empathy และยอมรับปัญหา

ขอบคุณครับ